10 ที่เที่ยวเขื่อนสวยทั่วไทย

วันนี้เที่ยวตามกระแส ทีมงานไทยเที่ยวไทยขอพามาปักหมุด สูดกาศดีๆ กันที่ 10 เขื่อนสวยทั่วไทย มาเดินเล่นไปบนสันเขื่อน ถ่ายรูปสวยๆ ตามกระแสฮิต มาดูกันได้เลยค่ะ

1. เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ไปเที่ยวเขื่อนภูมิพลกันมาแล้ว เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งแห่งเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับ 8 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกทั้งยังเป็นเขื่อนเอนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย เดิมทีเขื่อนแห่งนี้มีชื่อว่าเขื่อนยันฮี ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม พ.ศ.2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล และต่อมาพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์การก่อสร้าง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2504 ทั้งนี้ การสร้างเขื่อนแห่งนี้ขึ้นมานั้น เพื่อปิดกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีรัศมีความโค้ง 250 เมตร สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร โดยอ่างเก็บน้ำของเขื่อนนับว่ามีความจุสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่สำคัญของเมืองไทย แต่เขื่อนภูมิพลมีจุดท่องเที่ยวมากว่าแค่สันเขื่อนนะ ยังมีสถานที่เที่ยวหลายแห่งรอบบริเวณเขื่อน ได้แก่ หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์, สวนน้ำพระทัย, อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ, ต้นไม้ของพ่อ, โรงผลิตไฟฟ้าเขื่อนภูมิพล, สะพาน 50 ปี, สะพานปิงพิพรรธน์, หาดหัวหิน และ เขื่อนแม่ปิงตอนล่าง และ อาคารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เป็นต้น ลองไปเช็คอินเที่ยวได้ตลอดปีค่ะ

2. เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของภาคใต้ เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว มีความสูง 94 ม. มีความยาวสันเขื่อน 761 ม. และมีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาขาดอีก 5 แห่ง มีความจุ 5,638.8 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 185 ตร.กม. สร้างขึ้นเพื่อนปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก ด้วยสภาพพื้นที่ บรรยากาศ วิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบ ภูเขาหินปูน และผืนป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ผนวกกับองค์ประกอบความงามอื่นๆจากธรรมชาติ ส่งผลให้เขื่อนรัชชประภา กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองไทย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวรุ่นแล้วรุ่นเล่าเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศความงามอยู่ไม่ได้ขาด บางคนก็ตั้งฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” สำหรับผู้ที่มาเที่ยวเขื่อนรัชชประภานั้นก็มีกิจกรรมอันหลากหลายชวนให้เพลิดเพลิน ซึ่งสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทริป (ไปเช้า-เย็นกลับ) หรือนอนพักค้างในทะเลสาบเชี่ยวหลานสัมผัสบรรยากาศสุดฟิน

3. เขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สร้างขึ้นมาเพื่อกั้นแม่น้ำมูล โดยมีความสูง 17 เมตร ยาว 255 เมตร และมีความจุของอ่างเก็บน้ำกว่า 225 ล้านลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในด้านการท่องเที่ยว กลายเป็นจุดชมวิวยอดฮิต เพราะมีทัศนียภาพที่สวยงาม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แบบครบครันเลยค่ะ ซึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจนั้น ก็จะมีทั้ง การชมวิวแม่น้ำมูล ณ บริเวณสันเขื่อน ที่สามารถมองเห็นวิวด้านหลังเขื่อน เต็มไปด้วยแก่งหินมากมาย ดูสวยงามสุดๆ ไปเลยค่ะ และบริเวณท้ายเขื่อนก็ยังสามารถล่องเรือชมความงามของลำน้ำมูล ได้ถึงจุดที่บรรจบกับแม่น้ำโขงหรือบริเวณที่เรียกว่า แม่น้ำสองสี นั่นเอง

4. เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนคลองท่าด่าน เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลกอีกด้วย ซึ่งสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นอกจากเขื่อนขุนด่านปราการชลจะสร้างขึ้นเพื่อเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ในหน้าแล้งเพื่อการเกษตรแล้ว ที่นี่ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนครนายกอีกด้วย ใครที่อยากมาชมความสวยงามของทิวเขา หรือนั่งเรือชมบรรยากาศภายในเขื่อน สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว หาของกินอร่อยๆ ที่ร้านอาหารเด็ดๆ รอบเขื่อนแล้วล่ะก็ วันหยุดนี้ก็ปักหมุดมาชิลกันได้เลย

5. เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หรือเรียกอีกชื่อว่า เขื่อนพองหนีบ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทยที่ถูกเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 มีประโยชน์ ทั้งในด้านชลประทาน กักเก็บน้ำ ผลิตไฟฟ้า และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตในจังหวัดขอนแก่น สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ บอกเลยว่าต้องถูกใจที่นี่อย่างแน่นอน เพราะเหมาะกับการพักผ่อนในวันเบาๆ มีท่องเที่ยวมาเที่ยวชมตลอดทั้งปี ภายในเขื่อนมีร้านอาหารคอยให้บริการมากมาย นั่งทานที่ร้านก็ดีต่อใจ หรือจะปูเสื่อริมเขื่อนชิลๆ ก็สบายใจไปอีกแบบ ที่สำคัญคือมีบ้านพักให้บริการด้วยน้า รับรองว่ามาชิลกันได้ทุกวัยเลยจริงๆ

6. เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นเขื่อนดินที่กั้นแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณเขาเจ้าและเขาไม้รวก ทำให้เกิดเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ขึ้นมา จะมีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่กลางน้ำราวๆ 30-40 เกาะ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีบรรยากาศโดยรอบเหมาะกับการเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ที่เที่ยวที่มีวิวปังอลังการ บอกเลยว่าเห็นแล้วต้องอยากมานอนพักค้างสักคืนสองคืน ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้มาชมวิวสวยๆ จากด้านบนเขื่อน หรือจะนั่งเรือชมวิวรอบๆ ก็ได้เลย และไม่ว่าใครแวะมาที่นี่ก็จะต้องมาชมวิวของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไปกันค่ะ บอกเลยว่าเป็นสเน่ห์และเอกลักษณ์ของแก่งกระจานที่ไม่มีใครเหมือนจริงๆ

7. เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา เป็นเขื่อนดินสูง 40.30 เมตร สันเขื่อนยาว 521 เมตร มีพื้นที่กว่า 277,000 ไร่ เก็บน้ำได้กว่า 310 ล้านลูกบาศก์เมตร บริเวณรอบขอบเขื่อนจะอยู่ติดริมถนนเลียบไปกับถนนมิตรภาพ บรรยากาศของเขื่อนจะเป็นผืนน้ำกว้าง มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา มีภูเขารอบล้อม เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงจากทางทิศตะวันตกจะลงสู่ผิวน้ำจะทำให้งดงามมากๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวบนสันเขื่อนเพื่อชมทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำได้ วิวตรงนี้สามารถมองเห็นฉากหลังเป็นภูเขา โดยไม่ต้องเข้าไปถึงตัวเขื่อนเลยค่ะ ส่วนบริเวณขอบอ่างเก็บน้ำริม เขื่อนลำตะคอง ถนนมิตรภาพนั้น จะมีจุดชมวิวหลายที่เลย และจะมีร้านอาหารหลายร้านให้นักท่องเที่ยวเลือกเยอะแยะ นั่งทานอาหารพร้อมกับชมวิวของเขื่อนแบบฟินๆ ไปเลย สำหรับเมนูที่ต้องห้ามพลาดเลย คือ อาหารประเภทปลา เพราะสามารถจับได้จากอ่างเก็บน้ำ จะมีทั้ง ปลาช่อนย่างเกลือ ปลากระทิงต้มยำ เป็นต้น สำหรับไฮไลท์ของเขื่อนลำตะคองคือ กังหันลำตะคอง เป็นกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะอยู่บริเวณยอดเขา เหนืออ่างเก็บน้ำที่โรงไฟฟ้าลำตะคอง นอกจากจะใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริงแล้ว ยังเป็นอีกจุดเช็คอินถ่ายรูปอีกด้วย

8. เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นมาจากโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน เมื่อก่อนนั้นจะใช้ชื่อว่า เขื่อนผาซ่อม แต่ต่อมาก็ได้รับพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถขนานนามว่า “เขื่อนสิริกิติ์” เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 ภายในบริเวณเขื่อนก็ยังมีทั้งความสวยงามของธรรมชาติรอบๆ และความเงียบสงบของบรรยากาศ อีกทั้งยังมีพืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่งามสะพรั่งอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เองทำให้นักท่องเที่ยวไปเยือนกันอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ แต่ไฮไลท์ที่สวยงามที่สุด เห็นจะเป็นบริเวณทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงดงาม ซึ่งนอกจากวิวสวยๆ แล้ว เราก็ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนชาวประมงในบริเวณใกล้ๆ อีกด้วย และถ้าใครอยากมานอนพักรอบๆ เขื่อนสิริกิติ์ ก็จะมีที่พักตามแพในเขื่อนให้ได้เลือกตามใจชอบด้วยเช่นกัน และถ้าใครมีเวลาเที่ยวเขื่อนกันทั้งวันเนี่ย แนะนำว่าอย่าลืมไปเที่ยวที่อื่นๆ ภายในเขื่อนด้วยนะคะ เช่น พระพุทธสิริสัตตราชจำลอง (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) สวนสุมาลัย สะพานแขวนเฉลิมพระเกียรติ และสะพานแม่น้ำปาด เป็นต้น

9. เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ หรืออีกชื่อเรียกคือ เขื่อนน้ำพรม เขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อปิดกั้นลำน้ำพรมบนเทือกเขาขุนพาย เป็นเขื่อนหินทิ้ง แกนกลางเป็นดินเหนียว ยาวกว่า 700 เมตร สูง 70 เมตร เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่อยู่ในความดูแลของการไฟฟ้า เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าและด้านเกษตรกรรม บริเวณเขื่อนก็ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามมาก อีกทั้งอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ตกแต่งให้บริเวณนี้เป็นป่าอนุรักษ์ มีไม้ป่านานาชนิดพร้อมกับศาลาพรมพิสมัย ไว้สำหรับนั่งพักผ่อน ทางเดินภายในสวนก็จะตกแต่งด้วยหินธรรมชาติ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของชัยภูมิ นอกจากนี้ยังมี บริการบ้านพัก ร้านอาหาร และเรือ ไว้สำหรับล่องชมเขื่อนได้รอบ และที่นี่ยังได้รับฉายาว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย

10. เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ สูงจากท้องน้ำ 33 เมตร สันเขื่อนยาว 7.8 เมตร และกว้าง 8 เมตร สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ในการช่วยบรรเทาอุทกภัยและใช้ประโยชน์ทางการเกษตรของประชาชน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และมี หาดดอกเกด สถานที่พักผ่อนชื่อดังอยู่ในพื้นที่อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมี สะพานเทพสุดา ถือว่าเป็นสะพานน้ำจืดที่ยาวที่สุดในไทย เพราะสะพานนี้จะทอดยาวพาดผ่านผิวน้ำกว้างตลอด 80 กิโลเมตร ทำให้เห็นวิวในมุมสวยๆ และกว้างไกลแบบสุดๆ สามารถถ่ายรูป นั่งชิลริมเขื่อน มองพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า หรือจะล่องแพ ในบริเวณเขื่อน ก็พักผ่อนแบบเต็มที่สุดๆ ไปเลย

ขอบคุณเนื้อหาประกอบภาพจาก TrueID.net